ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นผลงานชิ้นสำคัญของลูกทีม เอ็ดดี้ ฮาว ที่ต้องลงสนามต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์หนัก โดย ฮาว กล่าวหลังเกมว่า “เราไม่ควรมองข้ามความยากของการเล่นทั้งวันอังคารและเสาร์ ผมดีใจที่ทีมสามารถหาทางชนะได้ในเกมที่ยากแบบนี้ ชัยชนะช่วงท้ายเกมคือสิ่งที่พิเศษที่สุดเสมอ”

เกมเริ่มต้นได้เพียงไม่นาน นิวคาสเซิลขึ้นนำก่อนจากความผิดพลาดของ คัลวิน บาสซีย์ ที่ชะล่าใจจนครองบอลช้า ทำให้ เจค็อบ เมอร์ฟี ฉกบอลไปได้ก่อนลากเข้าเขตโทษและซัดมุมแคบผ่านมือ แบร์นด์ เลโน่ เข้าไปอย่างเฉียบคม

เมอร์ฟี ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น “ราชาแอสซิสต์แห่งไทน์ไซด์” โชว์ฟอร์มโดดเด่นจนยังคงเบียด แอนโทนี อีลังก้า แข้งใหม่ค่าตัว 55 ล้านปอนด์จากน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ให้นั่งสำรองต่อไป

อย่างไรก็ตาม ฟูแล่มไม่ยอมง่าย ๆ และตีเสมอได้ในครึ่งหลังจากจังหวะที่ตัวสำรอง เควิน (ปีกบราซิลค่าตัวสถิติ 34.6 ล้านปอนด์ของทีม) เปิดบอลจากฝั่งซ้ายให้ ราอูล ฆิเมเนซ วอลเลย์ชนคาน ก่อนที่ ซาซ่า ลูคิช จะโหม่งซ้ำเข้าไปไม่เหลือ 1-1

จังหวะดังกล่าวทำให้ สเวน บ็อตมัน ปราการหลังนิวคาสเซิล ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกทันที โดย ฟาเบียน แชร์, ซานโดร โตนาลี และ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ ถูกส่งลงมาแทนในช่วงท้ายเกม

เกมทำท่าจะจบลงด้วยการแบ่งแต้ม แต่ในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90 นิวคาสเซิลได้เฮลั่นสนามเมื่อ วิล อูซูลา ตัวสำรองยิงไกลให้ เลโน่ ปัดไม่ขาด และ บรูโน่ กิมาไรส์ กัปตันทีมชาวบราซิล ซ้ำเข้าไปตุงตาข่าย เป็นประตูชัยให้ “สาลิกาดง” เฉือนชนะ 2-1

ผลจากเกมนี้ทำให้นิวคาสเซิลเก็บชัยชนะในลีกเป็นนัดที่ 3 ของฤดูกาล และเริ่มขยับหนีโซนล่างของตารางได้สำเร็จ ขณะที่ฟูแล่มของ มาร์โก ซิลวา ต้องพบกับความพ่ายแพ้เป็นนัดที่ 4 ติดต่อกัน เหลือแต้มห่างโซนตกชั้นเพียง 3 คะแนน

ซิลวา กล่าวหลังเกมด้วยความผิดหวังว่า “เราควรภูมิใจกับการตอบสนองหลังเสียประตู แต่สุดท้ายเราไม่ได้แต้มเลย นี่คือความจริงของทีมเราตอนนี้”

ชัยชนะสุดดราม่านี้จึงช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนิวคาสเซิลอย่างมาก ก่อนที่พวกเขาจะเดินหน้าต่อในศึกพรีเมียร์ลีกเพื่อไล่ล่าพื้นที่ยุโรปอีกครั้ง.